เปิดแบ่งบูชา ราคา 75,000 บาท

พระสมเด็จวัดพลับ หรือพระวัดพลับ หรือ วัดราชสิทธาราม เป็นพระกรุซึ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 มีการนำพระทั้งหมดบรรจุกรุในพระเจดีย์ข้างพระอุโบสถ มีทั้งชนิดเนื้อผงขาว ชนิดเนื้อละเอียดและเนื้อหยาบ ชนิดที่มีเนื้อละเอียดจะมีลักษณะคล้ายกันกับพระสมเด็จบางขุนพรหม ส่วนเนื้อหยาบจะมีสีเนื้อขาวอมเหลือง ตามประวัติ พระวัดพลับ แตกกรุออกมาโดยบังเอิญเมื่อปี พ.ศ.2470 มีจำนวนมากมาย พบว่ามีพิมพ์ต่างๆสามารถแยกออกได้เป็น 8 พิมพ์หลัก คือ 1. พิมพ์ยืนถือดอกบัว หรือ พิมพ์เสมาวันทา 2. พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ 3. พิมพ์ตุ๊กตาทรงชลูด 4. พิมพ์สมาธิใหญ่และสมาธิกลาง 5. พิมพ์เข่ากว้างใหญ่และเข่ากว้างเล็ก 6. พิมพ์พุงป่องใหญ่และพุงป่องเล็ก 7. พิมพ์ปิดตาใหญ่และปิดตาเล็ก 8. พิมพ์สองหน้า ซึ่งแต่ละพิมพ์นี้นั้น จะมีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกัน แต่ด้านหลังจะอูมนูนเหมือนกันหมด โดยสภาพขององค์พระจะมีพื้นผิวที่สังเกตุได้ค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากเป็นพระที่บรรจุกรุคล้ายกับพระสมเด็จวัดระฆังและวัดบางขุนพรหม ดังนั้น ผิวพระโดยทั่วไปจะมีการแตกราน ปรากฎรอยระแหงของเนื้อพระ มีคราบหินปูนเกาะติดแน่น มีคราบบางๆคล้ายฟองเต้าหู้และบางองค์จะมีเม็ดงอกขึ้นมาด้วย โดยการเช่าหามาบูชาต้องสังเกตุพิมพ์ทรงและผิวขององค์พระเป็นหลัก ส่วนในด้านพุทธคุณนั้น เชื่อกันว่า เยี่ยมยอดทางด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดคงกระพันดียิ่ง พระสมเด็จวัดพลับ พิมพ์พุงป่องใหญ่ ที่นำมาให้ดูนี้จะมีทั้งหมดสี่องค์ มีสภาพผิวที่เห็นคราบกรุ รอยราน รอยระแหงและเนื้องอกให้เห็น จุดเด่นพิมพ์ทรงนี้มีคร่าวๆดังนี้ บริเวณใบหน้าบางองค์ที่สวยงามจะมีเห็นนัยน์ตา จมูก ปาก ใบหน้ากลมทรงไข่ ส่วนศรีษะบนสุดเป็นเหมือนทรงหมวกคั่นอยู่ด้านบน บริเวณหน้าผากจะมีเหมือนไรผมเป็นสันออกมา ใบหูด้านขวาขององค์พระจะเล็กกว่าด้านซ้ายและปลายใบหูด้ายซ้ายจะเป็นแนวทิ้งดิ่งลงมา ที่สังเกตุชัดที่สุดจะเป็นบริเวณหน้าอกหรือท้องจะนูนป่องออกมามาก บริเวณลำคอจะใหญ่ วงแขนจะคล้ายกับพระสมเด็จที่โค้งหักเป็นมุมชัดเจนและจุดสังเกตุอีกจุดคือบริเวณด้านล่างจะเห็นเหมือนขาที่ซ้อนทับกันเป็นเส้นแบ่งซึ่งบางองค์จะไม่มีติดก็ได้